Skip to content
หน้าแรก » แต่งงาน ของคนไทย ความเชื่อที่ควรรู้ ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ

แต่งงาน ของคนไทย ความเชื่อที่ควรรู้ ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ

แต่งงาน

คนไทยมีความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณเกี่ยวกับการ แต่งงาน ที่เชื่อว่า หากไม่ทำตาม จะก่อให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีขึ้นระหว่างงานแต่งงาน คู่บ่าวสาวต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะคนไทยถือว่า งานแต่งงาน เป็นอีกงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ดังนั้น ถ้าอยากให้งานแต่งงานออกมาอย่างราบรื่น ก็ไม่ควรละเลยสิ่งที่ต้องทำเกี่ยวกับ แต่งงาน โดย Ruay 9 ได้แจกแจงรายละเอียดออกมา ดังนี้

งานแต่งงาน

ความเชื่อเกี่ยวกับ แต่งงาน ของคนไทย

คนไทยนั้น มีความเชื่อเกี่ยวกับการแต่งงาน ทั้งหมด 3 ช่วงเวลาด้วยกัน ได้แก่ ความเชื่อก่อนแต่งงาน ความเชื่อพิธีงานแต่ง และ ความเชื่อหลังแต่งงาน โดยสามารถแบ่งออกได้ตามนี้

ก่อนแต่งงาน

สวมแหวน
  • ห้ามบ่าวสาวเจอกันก่อนวันแต่งงาน 3 วัน

การห้ามเจอหน้ากันของบ่าวสาว ก่อนวันแต่งงาน 3 วัน ถือว่าเป็นความเชื่อสุดคลาสสิค ที่น่าจะได้ยินกันบ่อยที่สุดแล้ว ซึ่งที่จริงแล้ว ผู้ใหญ่ใช้ในการฝึกความอดทนของคู่บ่าวสาวมากกว่า เพราะสิ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิตคู่ก็คือ ความอดทน ที่จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกัน หากแค่ 3 วัน ยังอดทนไม่ได้ แล้วในอนาคต ชีวิตคู่จะเป็นอย่างไร

  • ห้ามไปงานอวมงคลภายใน 4 เดือนก่อนแต่ง

งานแต่ง ได้ชื่อว่าเป็น งานมงคล หากก่อนหน้านั้น 4 เดือน เราไปร่วมงานอวมงคล อย่าง งานศพ คนที่กำลังจะได้แต่งงาน คือ คนมีบุญ ส่วนคนที่ตายไปแล้ว ถือว่าเป็น คนหมดบุญ ยิ่งถ้าเราไปงานศพแล้ว ก็อาจจะมีภูตผีวิญญาณตามเรากลับมา เพื่อขอส่วนบุญ ดีไม่ดี อาจไปเป็นแขกไม่ได้รับเชิญในงานแต่งเราด้วย ทางที่ดี ควรหลีกเลี่ยงการไปงานศพจะดีที่สุด

  • ห้ามไปงานแต่งคนอื่นภายใน 4 เดือนก่อนแต่ง

ทุกคนอาจจะกำลังสงสัยกันว่า ในเมื่องานแต่งงาน เป็นงานมงคล ทำไมเราถึงไม่สามารถไปงานแต่งของคนอื่นได้ก่อนหน้านั้น 4 เดือน นั่นก็เพราะว่า คนที่กำลังแต่งงาน เป็นคนที่กำลังมีความสุข เป็นคนที่โชคดี และหากเราไปงานแต่งของคนอื่น คนอื่นก็จะมาแย่งความสุขและความโชคดีของเราไป ซึ่งหากมองในอีกนัยยะหนึ่ง นั่นก็คือ การไปงานแต่งคนอื่น อาจทำให้เราเก็บมาคิดมาก แล้วเปรียบเทียบกับงานแต่งของตัวเองก็ได้

พิธีแต่งงาน

ขบวนขันหมาก
  • ฤกษ์มงคล

การดูฤกษ์มงคลกับคนไทย ถือเป็นของที่อยู่คู่กันมาอย่างช้านาน ไม่ว่าจะเป็นกับงานแต่งหรืองานมงคลประเภทอื่นๆ ก็ตาม และไม่ใช่เพียงฤกษ์งานแต่งเท่านั้น แต่ยังมีฤกษ์งานหมั้น พิธีส่งเจ้าสาวเข้าเรือนหอ ฤกษ์การปลูกเตียงเรียงหมอน รวมไปถึงการรดน้ำสังข์ ที่ใช้ หอยสังข์ ในการทำพิธี เพื่อจะได้หาเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ให้มีแต่ความสุข อยู่กันไปยาวๆ ไม่มีวันเลิกราต่อกัน

  • อาหารในพิธีแต่งงาน

ในงานแต่งแต่ละงานที่เราไป มักจะได้เห็นอาหารที่คุ้นเคยกันหลายอย่าง เช่น ขนมจีนน้ำยา ที่ให้ความหมายว่า รักที่ยืนยาวเหมือนกับเส้นขนมจีน หรือ แกงจืด ที่แปลว่า รักที่ไม่มีอุปสรรค ทุกอย่างผ่านไปได้อย่างราบรื่น เป็นต้น โดยอาหารที่เราไม่ควรนำมาจัดในงานแต่ง ก็คือ อาหารที่มีรสเผ็ดจัด เช่น ต้มยำ ส้มตำ แกงเผ็ด เพราะจะทำให้ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น มีปากเสียง ทะเลาะกันตลอดเวลา

  • ห้ามทำของแตก

หากมีของตกลงมาแตก ไม่ว่าจะเป็นแก้ว จาน ชาม ด้วยความบังเอิญหรือไม่ได้ตั้งใจ ก็ถือว่าเป็นลางร้าย ที่บอกว่า ความสัมพันธ์ในครั้งนี้อาจไม่ได้ดีอย่างที่เราคิด อาจจะต้องแตกแยกจากกันไป คนโบราณเชื่อว่า จานชามที่เอาไว้ใส่อาหาร ก็เหมือนกับการรองรับกันของชีวิตคู่ ถ้าจานหรือชามแตกไป ก็เหมือนกับการที่ใครคนใดคนหนึ่งแตกขาดนั่นเอง

  • ขบวนขันหมาก

ไฮไลต์ประจำงานแต่ง คงหนีไม่พ้น ขบวนขันหมาก อย่างแน่นอน ต้องมีการจัดเตรียมเครื่องขันหมากต่างๆ ที่สื่อความหมายในทางที่ดี โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ที่เดินนำขบวนขันหมาก ต้องเป็นคนที่เราให้ความรักและเคารพ ถ้าให้ท่านเป็นคนเดินนำขันหมาก ชีวิตคู่บ่าวสาวก็จะเป็นเหมือนกับคนๆ นั้น ส่วนพ่อแม่ของเจ้าสาว ไม่ควรไปร่วมในขบวนขันหมาก เพราะจะทำให้ชีวิตเจ้าสาวมีปัญหากับครอบครัวเจ้าบ่าว

  • ชุดแต่งกายต้องห้าม

สำหรับคนที่จะเข้าร่วมงานแต่งของไทย ต้องเลือกสีเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ที่มีสีสันสดใส เช่น สีส้ม สีเขียว สีเหลือง สีชมพู สีฟ้า เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงสีที่ทึบ เช่น สีดำ สีเทา เป็นต้น เพราะสีทึบๆ เรามักจะใช้ในการใส่ไปงานอวมงคลมากกว่า ควรเน้นเป็นชุดที่มีสีโทนพาสเทลหรือโทนอ่อน เพราะในงานนี้ คนที่เด่นที่สุด ต้องเป็นเจ้าสาวและเจ้าบ่าว

หลังแต่งงาน

หมอนในเรือนหอ
  • ไม่ควรออกจากเรือนหอ

คืนแรกของการเข้าหอ เป็นคืนที่สำคัญที่สุดสำหรับบ่าวสาว ทั้งคู่ต้องนอนที่เตียงเดียวกัน สถานที่เดียวกัน ไม่ควรแยกออกไปนอนห้องอื่น หรือ ออกไปนอกห้องหอ เพราะเชื่อว่า หากอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนในคืนแรก ชีวิตคู่จะราบรื่นด้วยดี ไม่มีวันแยกห่างจากกัน แต่หากบ่าวสาวแยกกันนอน ก็จะทำให้คู่นี้ไปกันไม่รอด และต้องเลิกรากันไปในที่สุด

  • เจ้าสาวไม่ควรรีบกลับบ้าน

หลังจากจบงานแต่งไป เจ้าสาวไม่ควรรีบกลับบ้านไปหาพ่อแม่ ควรใช้เวลาอยู่กับสามีให้นานสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อที่จะได้เคยชินกับชีวิตคู่ ที่ต้องอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย หากกลับบ้านหลังจากเพิ่งออกจากห้องหอ หรือ เพิ่งแต่งงานไปได้สักระยะ เชื่อว่า คู่นี้จะไปกันไม่รอด ทำให้เจ้าสาวต้องรีบกลับบ้านมาหาพ่อแม่ เพราะว่าทะเลาะกัน

  • ไม่ควรไปงานอวมงคลหลังจากแต่ง 4 เดือน

ความเชื่อนี้ เป็นความเชื่อที่คล้ายกับความเชื่อก่อนแต่งงาน นั่นก็คือ ไม่ควรไปงานอวมงคล หลังจากแต่งงาน 4 เดือน เพราะช่วงที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เป็นช่วงของข้าวใหม่ปลามัน กำลังมีความสุขอย่างเต็มที่ เป็นช่วงเวลาที่ดี ไม่ควรนำตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่มีแต่ความเศร้าโศก เสียใจ ทุกข์ใจ หากหลีกเลี่ยงได้ ก็ไม่ควรไปงานศพหรือไปเยี่ยมคนป่วยประมาณ 4 เดือน

รดน้ำสังข์
การแต่งงาน

พิธีที่คนสองคนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน พร้อมลงในทะเบียนสมรสตามกฎหมาย พิธีแต่งงานมีความแตกต่างกันตามประเพณี วัฒนธรรม ศาสนาของกลุ่มคนนั้นๆ

ข้าวใหม่ปลามัน

เป็นช่วงเวลาที่นิยมใช้เรียก คู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ ยังมีความหอมหวาน มีกลิ่นอายของความรักเต็มไปหมด ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ดูดีไปหมดทุกอย่าง

เรือนหอ

สถานที่ปลูกสร้างที่บ่าวสร้างได้สร้างหรือซื้อมา เพื่อใช้ในการอาศัยกับชีวิตหลังแต่งงาน ซึ่งต้องแยกมาจากพ่อแม่ พี่น้อง หรือ ครอบครัวของตัวเอง

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Thaizer

สรุป

ก่อนแต่งงาน ต้องรู้เกี่ยวกับความเชื่อการ แต่งงาน ของคนไทยก่อน เพื่อให้การแต่งงานในครั้งนี้ ผ่านไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาอะไร แม้บางอย่างอาจจะดูเหมือนความเชื่องมงายของคนโบราณ แต่ที่จริงแล้ว ข้อห้ามที่แอดมินได้บอกไปนั้น มีหลายข้อที่เป็นคำสอนของผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ต้องการสั่งสอนคู่รักก่อนการเริ่มใช้ชีวิตคู่ เพื่อที่ชีวิตคู่ในอนาคตจะได้อยู่ด้วยกันยาวๆ ไม่เลิกรากันไป

บทความแนะนำ